ประวัติและเรื่องราวของ “ท้าวสักกเทวราช” (ท้าวอมรินทร์เทวาธิราช, พระอินทร์)

สักกะ (บาลีสกฺก) หรือ ศักระ (สันสกฤตशक्र ศกฺร; ความหมาย: ผู้องอาจ ผู้สามารถ) เป็นชื่อของเทพผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในจักรวาลวิทยาของศาสนาพุทธ ปรากฏนามในภาษาบาลีว่า สกฺโก เทวานํ อินฺโท(สันสกฤตशक्रो देवानं इन्द्रः ศกฺโร เทวานํ อินฺทฺรห์) หมายถึง "สักกะผู้เป็นใหญ่เหนือทวยเทพทั้งหลาย"[1] ในคัมภีร์ทางศาสนาพุทธ คำว่าสักกะถือว่าเป็นวิสามานยนาม (นามชี้เฉพาะ) ไม่อาจใช้เป็นชื่อแทนตัวของเทพองค์อื่นได้ ในทางตรงกันข้าม คำว่า อินฺท (ภาษาบาลี) หรือ อินฺทฺร (ภาษาสันสกฤต) ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้เป็นใหญ่" (ไทยรับมาใช้ในรูปคำว่า พระอินทร์) จะถูกใช้เป็นคำเรียกแทนตัวท้าวสักกะอยู่บ่อยครั้ง เทพสักกะมักถูกกล่าวถึงในชื่อ "ท้าวสักกเทวราช" หรืออาจเรียกเพียงย่อว่า "ท้าวสักกะ"[ต้องการอ้างอิง]
ในวัฒนธรรมเอเชียตะวันออก ท้าวสักกะเป็นที่รู้จักในนาม "ตี้ซื่อเทียน" (帝釋天) หรือ "ซื่อถีหฺวันอิน" (釋提桓因) ในภาษาจีน และ "ไทชะกุเท็น" (帝釈天) ในภาษาญี่ปุ่น สำหรับในประเทศจีนแล้ว บางครั้งมีการเปรียบเทียบว่าท้าวสักกะคือเง็กเซียนฮ่องเต้ (玉皇大帝) หรือจักรพรรดิหยกในลัทธิเต๋า ด้วยถือว่าเทพทั้งสององค์นี้มีวันประสูติเป็นวันเดียวกัน คือ ในวันที่ 9 เดือนที่ 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีน (โดยปกติจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ตามปฏิทินสุริยคติ)
ในฤคเวท อันเป็นวรรณคดีภาษาสันสกฤตในศาสนาฮินดู คำว่า "ศักระ" อันเป็นนามของท้าวสักกะในภาษาสันสกฤต ถูกใช้เป็นนามแทนตัวเทพอินทระหรือพระอินทร์อยู่บ่อยครั้ง แต่ในศาสนาพุทธ ตำนานและบุคลิกลักษณะของท้าวสักกะแตกต่างไปจากพระอินทร์ในพระเวทอย่างสิ้นเชิง"[1]
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ซึ่งเป็นที่สถิตของท้าวสักกะตั้งอยู่เหนือยอดเขาพระสุเมรุ ซึ่งตามคติเรื่องไตรภูมิ ถือว่าภูเขาแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของโลก อันมีพระอาทิตย์และพระจันทร์เวียนโคจรโดยรอบ สวรรค์ชั้นนี้นับเป็นสวรรค์ชั้นที่สูงที่สุดที่เชื่อมต่อกับมนุสสภูมิ (โลกมนุษย์) โดยตรง ท้าวสักกะมีชีวิตที่ยาวนานเช่นเดียวกับเทพทั้งหลาย หากแต่ก็มีวาระที่จะหมดอายุขัยตามแรงบุญของตนเองเช่นกัน ในยามที่ท้าวสักกะจะต้องจุติ (ตาย) เมื่อจิตดับไปแล้ว จะบังเกิดท้าวสักกะองค์ใหม่ (ซึ่งอาจเป็นเทพองค์อื่น) ขึ้นแทนที่ท้าวสักกะองค์เดิมทันที เรื่องราวของท้าวสักกะในทางพระพุทธศาสนาทั้งไม่ว่าจะในอดีตหรือในปัจจุบัน (ในช่วงที่บันทึกพระไตรปิฎก) ปรากฏอยู่ในชาดกและพระสูตรต่างๆ ซึ่งโดยมากจะอยู่ในหมวดสังยุตตนิกาย
ชื่อของท้าวสักกะถูกกล่าวถึงในพระสูตรหลายตอน และมักปรากฏบทบาทเป็นผู้กราบทูลของคำปรึกษาจากพระโคดมพุทธเจ้าในปัญหาธรรมต่างๆ ถือกันว่าพระองค์เป็นธรรมบาล (ผู้คุ้มครองธรรม) ในพุทธศาสนาร่วมกับเหล่าพรหมทั้งหลาย

ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki

• พระอินทร์ผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์

“พระอินทร์” หรือ “ท้าวอมรินทร์เทวาธิราช” หรือ “ท้าวสักกเทวราช”
เป็นตำแหน่งของพระราชาผู้เป็นใหญ่แห่งเทพทั้งปวงในสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 
ตำแหน่งนี้จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามผลแห่งบุญกรรมที่ได้กระทำไว้
พระอินทร์องค์ใดสิ้นบุญก็จะมีองค์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ กล่าวได้ว่า 
พระอินทร์นั้นมีหลายองค์ แต่ละองค์ก็มีอายุขัยเป็นไปตามบุญกุศลที่ตนได้กระทำมา
 

ประวัติและเรื่องราวของพระอินทร์น่าจะเป็นบทเรียนที่ช่วยให้รู้
และเข้าใจถึงการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ว่าท่านคิดอะไรถึงได้ทำเช่นนั้น 
นอกจากนี้ การได้เรียนรู้วิธีคิดและการกระทำของพระอินทร์ 
เป็นสิ่งที่เราสามารถกระทำตามได้ไม่ยาก ไม่ใช่เรื่องห่างไกลและเฟ้อฝันเลย 
เพราะตัวท่านเองก็ได้ประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ในขณะที่ยังเป็นมนุษย์ปุถุชน

ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึง พระอินทร์ ในสมัยพุทธกาล เท่านั้น





• ความเพียร

ในคราวที่ สุวีวรเทวบุตร ขอพรกับพระอินทร์ว่า 
“ขอให้ตนได้เป็นผู้ที่เกียจคร้าน ไม่ขยันหมั่นเพียร 
ไม่ทำกิจที่ควรทำ แต่ก็ได้รับความสำเร็จทุกอย่างตามที่ปรารถนา”

พระอินทร์ทรงตรัสเพื่อให้คิดว่า 
“คนเกียจคร้านบรรลุถึงความสุขอย่างยิ่งในที่ใด 
ก็ให้ท่านจงไปในที่นั้นเอง และช่วยบอกให้ข้าพเจ้าได้ไปในที่นั้นด้วย”

ถึงกระนั้นสุวีรเทวบุตรก็ยังขอพรว่า 
“ขอพระองค์ได้โปรดประทานพรความสุขชนิดที่ไม่มีทุกข์โศก โดยไม่ต้องทำอะไรเลย”

พระอินทร์ตรัสว่า 
“ถ้าจะมีใครดำรงชีวิตอยู่โดยไม่ต้องทำอะไรในทิศทางไหน 
นั่นเป็นทางนิพพานแน่ ให้ท่านจงไปและช่วยบอกข้าพเจ้าให้ไปด้วย”




                                                             
                                                                                          อ่านต่อ